วันเสาร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2554

iPad 1 เตรียมปรับราคาลง 3,000 บาท เริ่มต้นที่ 9,900 บาทต้อนรับการเปิดตัว iPad2 เร็วๆนี้



มีข่าวลือออกมาว่า iPad 1 เตรียมลดราคาลงในวันที่ 6 พฤษภาคมนี้ ซึ่งวันดังกล่าวได้มีข่าวลือหนาหูออกมาก่อนหน้านี้ว่า iPad 2 จะมีการเปิดตัวในประเทศไทยโดยราคาของ iPad 1 นั้นจะมีการลดราคาลงรุ่นละ 3,000 บาท ดังนี้

iPad 16GB WiFi เหลือ 9,900 บาท
iPad 32GB WiFi เหลือ 12,900 บาท
iPad 64GB WiFi เหลือ 15,900 บาท

iPad 16GB 3G+WiFi เหลือ 13,900 บาท
iPad 32GB 3G+WiFi เหลือ 16,900 บาท
iPad 64GB 3G+WiFi เหลือ 19,900 บาท

สำหรับราคา iPad 2 มีดังนี้

iPad 2 16GB WiFi เหลือ 15,900 บาท
iPad 2 32GB WiFi เหลือ 18,900 บาท
iPad 2 64GB WiFi เหลือ 21,900 บาท

iPad 2 16GB 3G+WiFi เหลือ 19,900 บาท
iPad 2 32GB 3G+WiFi เหลือ 22,900 บาท
iPad 2 64GB 3G+WiFi เหลือ 25,900 บาท

ที่มา : Flashfly NEWS

RIM โชว์ภาพล่าสุดของ BlackBerry Bold Touch ก่อนเปิดตัวสัปดาห์หน้า

Research In Motion หรือ RIM ผู้ผลิตมือถือ BlackBerry ได้โพสทีเซอร์ของสมาร์ทโฟนตัวใหม่ BlackBerry Bold Touch ที่มีจุดเด่นอยู่ที่หน้าจอแบบ touch-screen และจะถูกเปิดตัวในงาน BlackBerry World Show ในสัปดาห์หน้า

BlackBerry Bold Touch ตัวใหม่นี้ จะใช้ระบบปฏิบัติการตัวล่าสุดของ RIM คือ BlackBerry7 หรือที่ถูกเรียกว่า OS6.1 ก่อนหน้านี้ และใช้ชิพประมวลผล Snapdragon แบบ single-core 1.2GHz แรม 768MB กล้องดิจิตอล 5MP ที่สามารถถ่ายภาพที่ความละเอียดระดับ HD (720p) ได้ และหน่วยความจำภายในขนาด 8GB โดย new Bold Touch นี้จะเป็นโทรศัพท์ตัวแรกของ RIM ที่ใช้ระบบ touch-screen บนหน้าจอขนาด 2.8 นิ้ว ที่ความละเอียด 640x480 พิกเซล


ที่มา : TechXcite

วันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2554

Sprint ประกาศวันวางจำหน่าย Motorola Xoom Wi-Fi พร้อมราคา

Sprint ประกาศที่จะวางจำหน่าย Motorola Xoom Wi-Fi ในวันที่ 8 พฤษภาคม โดยตั้งราคาไว้ที่ $600 หรือประมาณ 18,000 บาท

Motorola Xoom Wi-Fi จะใช้ระบบปฏิบัติการ Android 3.0 Honeycomb ใช้ชิพประมวลผลความเร็ว 1GHz แบบ dual-core รองรับ Adobe Flash Player 10.2 สามารถดาวน์โหลดได้ที่ Android Market มาพร้อมกับกล้องดิจิตอล 5MP พร้อมแฟลชและสามารถถ่ายวีดีโอที่ความละเอียดระดับ HD ส่วน กล้องหน้ามีความละเอียดที่ 2MP รองรับการใช้งาน video chat หน้าจอขนาด 10.1 นิ้ว หน่วยความจำภายในขนาด 1GB สามารถเพิ่มได้ถึง 32GB ด้วย microSD card

น่าเสียดายที่เจ้าเครื่องนี้ รองรับเฉพาะ Wi-Fi เท่านั้น ยังไม่สามารถใช้งาน 3G และ 4G WiMAX ได้


ที่มา : TechXcite

วันพฤหัสบดีที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2554

Kaspersky ระบุ Android OS แหล่งเพาะพันธุ์ไวรัส, มัลแวร์ชั้นดี!

แม้ว่า Android OS จะชอบยกตนข่มท่านชูข้อดีของตัวเองอย่างเช่นการที่มันเป็นแพลตฟอร์มแบบเปิดที่ใครก็สามารถใช้งานได้มาข่มขวัญทางฝั่ง iOS อยู่เสมอๆ แต่คราวนี้ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าดาบนี้คืนสนองดีหรือไม่เพราะล่าสุดทางด้านของ Kaspersky ได้เผยรายงานชิ้นใหม่ออกมาว่าระบบปฏิบัติการ Android นั้นถือได้ว่าเป็นแหล่งเพาะพันธุ์มัลแวร์ชั้นดีที่ไม่ว่าใครใช้งานก็ควรระวังเอาไว้บ้างก็น่าจะดีนะ

โดยรายละเอียดจาก Kaspersky ระบุว่าในเวลานี้ระบบ Android OS มีรูปแบบมัลแวร์ที่แฝงตัวมาในคราบของแอพพลิเคชันโหลดฟรีบน Android Market แล้วถึงกว่า 70 ชนิด (สำรวจล่าสุดถึงเดือนมีนาคม) และจะยังคงเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแน่นอนว่าก่อนหน้านี้ Google เองก็พยายามหามาตรการมาจัดการกับภัยร้ายเหล่านี้ด้วยการลบแอพน่าสงสัยออกไปให้หมดจาก Market ของตัวเอง แต่อาจจะเป็นเพราะด้วยความที่ Android เป็นแพลตฟอร์มแบบเปิดทำให้กำจัดยังไงก็ไม่มีวี่แววว่าจะหมดเสียทีนั่นเอง

ซึ่งหากเหตุการณ์ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่องแบบนี้ต่อไปก็อาจส่งผลกระทบ ให้ผู้พัฒนาโทรศัพท์มือถือและสมาร์ตโฟนทั้งหลายเกิดอาการหวั่นใจกับระบบ ปฏิบัติการ Android ขึ้นมาในอนาคตก็เป็นไปได้เพราะจะว่าไปไม่ว่าจะเป็นไวรัสหรือมัลแวร์ต่างก็เป็นปัจจัยลบพื้นฐานสำหรับการพัฒนาเทคโนโลยีด้าน IT ในทุกวงการอยู่แล้ว และนั่นอาจส่งผลมาถึงส่วนแบ่งทางการตลาดของ Android ที่นำหน้าเหนือแพลตฟอร์มอื่นอยู่ในเวลานี้ด้วย

ดังนั้นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับ Google ในเวลานี้ก็น่าจะเป็นการที่พวกเขาควรจะหันมาใส่ใจกับกระบวนการพิจารณา แอพพลิเคชันสำหรับวางจำหน่ายให้มีความรัดกุมมากขึ้นเหมือนอย่างที่ Apple ทำกับ AppStore ของตัวเองอยู่ในปัจจุบัน เพื่อที่ว่า Android Market ในอนาคตจะได้มีทั้งแอพที่น่าใช้งานจริงๆ (ไม่ใช่ว่าเยอะแต่ปริมาณอย่างเดียว) รวมถึงปลอดภัยที่จะดาวน์โหลดมาใช้กับสมาร์ตโฟนของคุณเองด้วยครับ

ที่มา : TechXcite

วันศุกร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2554

Toshiba เปิดตัวโน้ตบุ๊ค 2D+3D บนจอเดียวตัวแรกของโลก

Toshiba ประกาศเปิดตัวโน้ตบุ๊คตัวแรกของโลกที่สามารถแสดงภาพเป็นแบบ 3D และ 2D ในเวลาเดียวกัน โดยให้ชื่อว่า Toshiba Dynabook Qosmio T851/D8CR

โดยเจ้าโน้ตบุ๊คตัวนี้ใช้ชิพประมวลผล dedicated SpursEngine เพื่อให้ได้ภาพ 3D ที่มีคุณภาพและภาพ 2D ในเวลาเดียวกัน

Toshiba T851/D8CR มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว (1920x1080) และ เทคโนโลยี Clear SuperView LED-backlit ใช้ชิปประมวลผล Core i5-2410M 2.3GHz การ์ดจอ GeForce GT 540M แรมขนาด 1GB และสามารถเพิ่มได้ถึง 8GB และฮาร์ดดิสก์ขนาด 750GB

นอกจากนั้นยังมี Blu-ray drive, TV tuner, ลำโพงจาก Harman Kardon, และรองรับการเชื่อมต่อทั้ง Gigabit Ethernet, Wi-Fi 802.11b/g/n, Bluetooth 3.0, USB 3.0 และ HDMI

Toshiba Dynabook Qosmio T851/D8CR จะวางตลาดในประเทศญี่ปุ่นประมาณเดือนกรกฎาคมปีนี้

ที่มา : TechXcite

ASUS Eee Pad Transformer เริ่มขาย 26 เมษาเริ่มต้นเพียง 12,000 บาท!


สงครามราคากำลังจะระเบิดศึกขึ้นในแวดวงอุปกรณ์ประเภทแทบเลตบนระบบปฏิบัติการ Android 3.0 Honeycomb หลังจากที่ Acer ใกล้ที่จะวางขาย Iconia Tab A500 ล่วงหน้าไปก่อนแล้ว มาวันนี้เป็นทางด้านของ ASUS ที่ก็กำลังจะมี ASUS Eee Pad Transformer ออกมาวางจำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกาด้วยราคาที่ต้องบอกว่าไม่แพงเลยสำหรับแทบเลตที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดเช่นนี้

โดย Asus Eee Pad Transformer รุ่นความจุ 16GB นั้นจะมีราคาเริ่มต้นเพียงแค่ $399 (12,000 บาท) ขณะที่รุ่นความจุ 32GB ก็ไม่ได้ทำให้คุณต้องกระเป๋าฉีกแต่อย่างใดด้วยการเพิ่มเงินค่าไถ่เครื่องเป็น $499 (15,000 บาท) เท่านั้นเอง ซึ่งเรตราคานี้ก็ค่อนข้างตรงกับข่าวลือในบ้านเราที่ว่า ASUS จะนำ Eee Pad Transformer ออกมาวางจำหน่ายในราคาราว 12,000-13,000 บาทอยู่ไม่น้อยทีเดียว

สำหรับสเปคเครื่องของ ASUS Eee Pad Transformer นั้นนอกเหนือจากจะใช้งาน Android OS เวอร์ชันล่าสุดแล้วก็จะมีทั้งหน้าจอแบบ IPS ขนาด 10.1 นิ้วความละเอียด 1280*800 พิกเซล, ชิปเซ็ตประมวลผลแบบ Dual-Core จาก NVIDIA Tegra 2 ความเร็ว 1GHz, 1GB RAM พร้อมกล้องหน้า 1.2MP-กล้องหลัง 5MP ด้วย

ขณะเดียวกันอีกหนึ่งจุดขายในรุ่น Transformer นั้นก็คือ Docking แบบพิเศษที่สามารถนำมาต่อเข้ากับตัวแทบเลตเพื่อเปลี่ยนเป็นเครื่องโน้ตบุ๊ค ได้ในพริบตาซึ่งก็จะนำออกมาขายแยกด้วยเรตราคาอยู่ที่ $150 (4,500 บาท) ครับ


ที่มา : TechXcite

วันอังคารที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2554

Apple ฟ้อง Samsung ก็อปดีไซน์ iPhone, iPad ลงตระกูล Galaxy

เตรียมต้มมาม่ารอกันได้เลยเพราะเห็นทีว่าคงจะเดือดกันยาวๆแน่สำหรับบริษัท Apple ที่เตรียมจัดการฆ่าตัดตอนคู่ปรับร่วมวงการนวัตกรรมเทคโนโลยีโดยตรงอย่าง Samsung ที่พักหลังก็เข้าห้ำหั่นในตลาด IT กับทาง Apple ด้วยกองทัพสินค้า Android มากมายเป็นภูเขาเลากาด้วยการตัดสินใจยื่นฟ้องยอดบริษัทแดนโสมในข้อหาละเมิดสิทธิบัตรด้านดีไซน์ผลิตภัณฑ์กันเสียเลย

โดยตัวแทนด้านกฏหมายของ Apple ได้อ้างว่าทางด้านของ Samsung นั้นได้ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของ Apple ทั้งรูปลักษณ์ดีไซน์ภายนอก, ระบบ user interface หรือแม้กระทั่งหีบห่อผลิตภัณฑ์มาจากผลิตภัณฑ์ของทางบริษัท Apple เองเพื่อนำมาใช้งานในผลิตภัณฑ์ในตระกูล Galaxy โดยไม่ได้รับการอนุญาต ซึ่งเป้าโจมตีในคราวนี้ก็โดนกันไปเต็มๆถ้วนหน้าไม่ว่าจะเป็นในสายสมาร์ตโฟนที่มี Samsung Galaxy S 4G, Samsung Epic 4G และ Samsung Nexus S ที่มี iPhone เป็นแม่แบบ ขณะที่ทางฝั่งแทบเลตนั้นก็พอจะเดากันได้ว่า Samsung Galaxy Tab จะโดนกล่าวหาว่าไปลอก iPad มาอีกทีหนึ่งด้วย

อย่างไรก็ดีการขยับตัวยื่นฟ้องร้องทางกฏหมายของ Apple ในคราวนี้ก็ไม่รู้ว่าจะส่งผลกระทบเป็นคมหอกที่พุ่งกลับมาทำร้ายตัวเองหรือไม่ เพราะจะว่าไปแล้วก็ต้องถือได้ว่า Samsung เป็นบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์ต่างๆให้กับผลิตภัณฑ์ของ Apple เองทั้ง iPhone และ iPad อยู่จำนวนไม่น้อยทีเดียวไม่ว่าจะเป็นชิปเซ็ตประมวลผล Apple A4 และ A5, หน้าจอ LCD, แฟลชเมมโมรี่ รวมถึงอะไหล่เบี้ยบ้ายรายทางอีกนับไม่ถ้วนทีเดียว

ที่มา : TechXcite

วันอังคารที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2554

รั่ว!!! Windows App Store บน Win8

ข่าวรั่ว-ภาพหลุดมีให้ได้ติดตามกันไม่เว้นแต่ละวัน ล่าสุดเป็นทีของไมโครซอฟท์ (Microsoft) บ้าง เมื่อมีรายงานข่าวออกมาว่า เว็บไซต์ WindowsRumors เผยภาพหลุดของหน้าจอ Windows App Store ให้ได้เห็นเป็นขวัญตา โดยจากรายงานยังอ้างอีกด้วยว่า มันเป็นภาพของหน้าจอบริการที่เป็นบิลด์แรกๆ จากไมโครซอฟท์ อย่างไรก็ตาม มีการอ้างจาก cnBeta.com เว็บไซต์ในจีนที่โพสต์รูปคล้ายกันนี้ระบุว่า เป็นภาพที่ได้จากไมโครซอฟท์

ไมโครซอฟท์ (Microsoft) กำลังเร่งเครื่องอย่างหนัก เพื่อไล่ตามเส้นทางของ Apple ซึ่งก่อนหน้านี้ ทาง Apple เพิ่งจะเพิ่ม Mac App Store หน้าร้านจำหน่ายแอพพลิเคชันในปี 2010 สำหรับเครื่องแมคอินทอชที่ทำงานด้วยระบบปฎิบัติการ Mac OS X โดยแนวคิดดังกล่าวเป็นการพัฒนาต่อยอดจาก App Store ที่เปิดให้บริการแอพฯ บน iPhone และ ipad ซึ่ง Microsoft ก็ได้เปิด Windows Phone Apps Marketplace เช่นเดียวกับ App Store ของ Apple และ Android Marketplace ของ Google

อย่าง ไรก็ตามมีข่าวลือหนาหูว่า Microsoft เตรียมจะเปิดหน้าร้านซอฟต์แวร์สำหรับ Windows เพื่อตัดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากผู้ค้าที่เป็นคนกลาง อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในเรื่องของการทำราคา ซอฟต์แวร์ด้วยการเปิดหน้าร้าน Windows App Store ซึ่งหากภาพหลุดขอหน้าจอที่ออกมานี้เป็นของจริง มันก็คงเป็นต้นแบบหน้าจอรุ่นแรกๆ ที่ยังไม่เหมาะสำหรับการเผยแพร่แต่อย่างใด แต่อีกประเด็นหนึ่งที่น่าจับตาก็คือ การใช้คำว่า "App Store" ของ Microsoft เนื่องจากก่อนหน้านี้ Apple อ้างว่า ชื่อดังกล่าวเป็นเครื่องหมายการค้า (trademark) ของทางบริษัทเท่านั้น สำหรับประเด็นที่น่าสงสัยที่เกิดขึ้นกับภาพที่หลุดออกมาอีกประเด็นหนึ่งก็ คือ ภาพหน้าจอที่หลุดออกมา ดูเหมือนจะทำงานบน Windows 7 แต่ทาง WindowsRumors บอกว่า มันทำงานบน Windows 8 บิลด์แรกๆ เชื่อว่า อีกสักพักข่าวความชัดเจนเรื่องนี้คงจะได้มีการเปิดเผยออกมา เพราะอย่างไรแล้ว Microsoft คงไม่อาจปฏิเสธแนวโน้มของพฤติกรรมการใช้ซอฟต์แวร์ในโลกปัจจุบันไปได้อย่าง แน่นอน

ที่มา : Arip

เว็บไซต์ในข่าว : cnbeta

วันอาทิตย์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2554

HTC Sensation คู่แข่ง Samsung Galaxy S II จ่อเปิดตัว 12 เมษานี้!

เว็บไซต์ Pocket-lint รายงานว่าสมาร์ตโฟนสเปคแรงรุ่นใหม่ล่าสุดจาก HTC อย่าง HTC Pyramid เตรียมตัวที่จะได้รับการเปลี่ยนชื่อรุ่นให้ฟังดูเท่ยิ่งกว่าเดิมเป็น HTC Sensation ก่อนที่จะออกงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 12 เมษายนนี้ โดยตัวเครื่องจะพร้อมวางจำหน่ายต่อไปในอีก 2-3 สัปดาห์ให้หลังแม้ว่าจะยังไม่มีการระบุราคาที่แน่นอนออกมาแต่อย่างใดในเวลา นี้

สำหรับ HTC Sensation นั้นถือได้ว่าเป็นสมาร์ตโฟนที่ได้รับการปรับแต่งมาจากมือถือ 3D ร่วมค่ายอย่างรุ่น HTC EVO 3D นั่นเองแต่จะตัดเอาในส่วนของหน้าจอสามมิติและกล้องหลังตัวที่ 2 ออกไป โดยตัวเครื่อง Sensation จะยังคงไว้ซึ่งหน้าจอขนาด 4.3 นิ้วความละเอียด 960*540 พิกเซล, ระบบปฏิบัติการ Android 2.3 Gingerbread รวมถึงหน้าตาอินเตอร์เฟซ Sense UI จาก HTC เวอร์ชันล่าสุด แต่จะได้รับการอัพเกรดความละเอียดของกล้องหลังขึ้นเป็น 8 ล้านพิกเซลแทน

นอกจากนี้ HTC Sensation ยังถือได้ว่าเป็นสมาร์ตโฟนในระบบปฏิบัติการ Android 2.3 ที่มีความเร็วในการประมวลผลที่สูงที่สุดในเวลานี้จากการเลือกใช้งานชิปเซ็ตประมวลผล Snapdragon แบบ Dual-Core ความเร็ว 1.2 GHz ซึ่งถือได้ว่าเร็วที่สุดในเวลานี้เทียบเท่ากับ Samsung Galaxy S II ที่เพิ่งจะตัดสินใจปรับความเร็วซีพียูของตัวเองขึ้นมาเป็น 1.2GHz เช่นเดียวกัน

ที่มา : TechXcite

วันจันทร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2554

Hercules eCAFE EX HD เน็ตบุ๊คขั้นเทพกับซีพียู iPhone 4, แบต 13 ชั่วโมง

ถ้าพูดถึงเน็ตบุ๊คในชั่วโมงนี้แล้วหลายท่านอาจเกิดอาการยี้ขึ้นมาทันที เพราะจะว่าไปแล้วเดี๋ยวนี้แทบเลตหลากหลายยี่ห้อในท้องตลาดก็มีราคาในระดับ เดียวกันกับเน็ตบุ๊คแถมยังจะมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบเครื่องกว่าเน็ตบุ๊ค เสียด้วยซ้ำ แต่วันนี้ความคิดของท่านอาจจะต้องเปลี่ยนไปเมื่อได้พบกับเน็ตบุ๊ค eCAFE EX HD จากบริษัท Hercules ที่มีคุณสมบัติน่าสนใจหลายประการชนิดที่อาจทำให้หลายคนต้องหันกลับมามองเน็ตบุ๊คกันใหม่เลยละ

สำหรับ Hercules eCAFE EX HD จะประมวลผลด้วยซีพียู ARM Cortex A8 ตัวเดียวกับที่มีใช้งานใน iPhone 4 (ต่างกันตรงความเร็วสูงสุดที่ 800 MHz) บวกกับ 512MB RAM ผ่านระบบปฏิบัติการ Linux OS ภายในตัวเครื่อง โดยพวกเขาพร้อมชูจุดขายในส่วนของแบตเตอรี่สุดอึดเกินใครพร้อมให้คุณใช้เน็ต บุ๊ครุ่นนี้ได้ยาวนาน 13 ชั่วโมงต่อเนื่องทีเดียว นอกจากนี้ยังสามารถบูตเครื่องจากสถานะแสตนด์บายได้ภายในเวลาเพียง 4 วินาทีเท่านั้นด้วย

eCAFE EX HD มีความหนาอยู่ที่ 1.1 นิ้วโดยมันจะใช้งานหน้าจอขนาด 10.1 นิ้วความละเอียด 1024*600 พิกเซลซึ่งสามารถรองรับการเล่นไฟล์วิดีโอแบบ HD 720p ได้อีกด้วย โดยไฟล์ต่างๆภายในเครื่องจะถูกจัดเก็บไว้ในแฟลชเมมโมรี่ iNAND ความจุ 8GB หรือ 16GB แล้วแต่ความต้องการ

นอกจากนี้ eCAFE EX HD ยังจะมีพอร์ตให้ใช้งานอีกมากมายไม่ว่าจะเป็น USB 2.0, SD/SDHC Card Reader และ HDMI รวมถึงรองรับการเชื่อมต่อกับ Wi-Fi/Ethernet ซึ่งภายในตัวเครื่องยังจะได้รับการติดตั้งโปรแกรมบางส่วนเช่น Firefox หรือ OpenOffice มาให้อีกต่างหาก

กำหนดวางจำหน่ายของ eCAFE EX HD อยู่ในช่วงเดือนเมษายนนี้ด้วยราคาขายอยู่ที่ $229 (6,900 บาท) สำหรับรุ่น 8GB และ $269 (8,100 บาท) สำหรับรุ่น 16GB ครับ

ที่มา : TechXcite

เขียนอีเมลให้แตกต่าง กับ Gmail Motion


ไม่ แน่ใจว่าจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้หรือไม่ กับการเขียนอีเมลรูปแบบใหม่ โดยการเขียนอีเมลด้วย ท่าทางของผู้เขียน ซึ่งคงจะตลกไม่น้อยที่จู่ๆ หากมีเพื่อนเราทำท่าทางแปลกๆ เพื่อเขียนอีเมล โดยผู้เริ่มต้นพัฒนาซอฟต์แวร์เป็นเจ้าแรกก็คือ “Google” โดยใช้ชื่อว่า Gmail Motion!!

Google สร้างความแตกต่างจากผู้ใช้บริการเจ้าอื่นๆ โดยพัฒนาซอฟต์แวร์ในการใช้อีเมลด้วยท่าทาง (Motion Controlled Email) ซึ่งจะทำงานร่วมกับเว็บแคมบนเครื่องคอมพิวเตอร์ในการตรวจจับท่าทางของผู้ใช้ ทางร่างกาย และภาษามือในการใช้งานฟังก์ชันต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การเปิดใช้งานอีเมล การตอบอีเมล การเขียนอีเมล เป็นต้น

แต่ถ้าหากว่าเพื่อนๆ ที่กำลังสนใจอยากหยิบกล้องมาทดลองใช้งานล่ะก็ อาจจะต้องเซงกันอีกหน่อยนะครับ เนื่องจากว่า Gmail Motion นี้... มันเป็นเรื่อง อำกันในวันที่ 1 เมษา ของฝรั่ง (April Fool’s Day) นั่นเอง หากว่าเพื่อนๆ TechxcitE ไม่พอใจก็คิดเสียว่า หยอกกันเล่นๆ นะครับ ^^

ที่มา : Gmail

วันศุกร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2554

Acer Iconia โน้ตบุ๊ค 2 จอสัมผัสเปิดจองแล้วในอเมริกาถูกกว่าบ้านเราเป็นหมื่น!

เชื่อว่าเมื่อช่วงงาน Commart Thailand 2011 ที่ผ่านมาหลายๆคนคงจะได้มีโอกาสไปสัมผัสกับนวัตกรรมใหม่จากบริษัท Acer อย่าง Acer Iconia โน้ตบุ๊ค 2 จอสัมผัสที่คงทำให้หลายคนเกิดอาการครั่นเนื้อครั่นตัวอยากหามาเป็นเจ้าของ ซักเครื่อง ติดอยู่นิดตรงที่ว่าราคาเปิดตัวของมันช่างอลังการได้ใจในระดับ 49,900 บาท (รวม VAT แล้วก็ตกอยู่ราว 53,000 บาท) จนอาจทำให้หลายคนต้องเมินหน้าหนีไปแบบคนเจียมตัวเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตามล่าสุดดูเหมือนว่าจะมีทางเลือกใหม่ๆสำหรับคนที่อยากได้ Acer Iconia ในราคาสบายกระเป๋ากันแล้วเมื่อ Acer พร้อมวางจำหน่าย Acer Iconia-6120 อย่างเป็นทางการในประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดา โดยคุณสามารถเข้าไปสั่งซื้อกันได้ที่เว็บไซต์ Amazon ด้วยราคาที่คุณ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ซื้อไปใช้แล้ว) เห็นแล้วต้องตะลึงเพียงแค่ $1200 (36,000 บาท) เท่านั้น ซึ่งกำหนดส่งสินค้าของจริงสู่มือลูกค้าจะอยู่ในช่วงเดือนเมษายนนี้นี่เอง

สำหรับสเปคคร่าวๆของ Acer Iconia นั้นจะใช้งานหน้าจอสัมผัส 2 จอที่ผลิตขึ้นจากกระจกแบบ Gorilla Glass, ซีพียู Core i5, 4GB RAM, กราฟฟิกการ์ด Intel HD รวมถึง Windows 7 Home Premium ที่ติดตั้งมาให้ในภายเครื่อง

นอกจากนี้ Iconia ยังจะมีฟีเจอร์สำคัญๆให้ใช้งานกันอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นพอร์ต USB 3.0, พอร์ต HDMI, ฮาร์ดดิสก์ 640GB, กล้องเว็บแคม 1.3 ล้านพิกเซลและแอพพลิเคชัน Social Jogger รวมอัพเดตฟีดข้อมูลจากสังคมออนไลน์ทั้ง Facebook และ Twitter มาให้ด้วย

ที่มา : TechXcite

โชว์ภาพใหม่ BlackBerry Touch สมาร์ตโฟน BB รุ่นจอสัมผัสก่อนเปิดตัวพฤษภา!

สาวก BlackBerry ที่อยากจะลองระบบมัลติทัชเต็มรูปแบบเตรียมเฮกันได้ล่วงหน้าเลยหลังจากที่ล่าสุดเว็บไซต์ Boy Genius Report รายงานว่าพวกเขาได้มีโอกาสสัมผัสกับรุ่นโปรโตไทป์ของ BlackBerry Touch หรือชื่อเดิม BlackBerry Monaco (GSM)/ Monza (CDMA) ซึ่งถือได้ว่าเป็นสมาร์ตโฟนตัวแรกจากค่าย RIM ที่มาพร้อมกับระบบสัมผัสเต็มรูปแบบโดยตัดสัญลักษณ์คู่บ้านอย่างคีย์บอร์ด QWERTY ออกไปนั่นเอง

สำหรับดีไซน์ภายนอกของ BlackBerry Touch นั้นได้รับการปรับโฉมให้มีหน้าตาโฉบเฉี่ยวไฉไลรวมถึงความไวในการประมวลผลที่ มากขึ้นกว่าเดิมด้วยความละเอียดหน้าจอเพิ่มขึ้นเป็น 800*480 พิกเซล โดยตัวเครื่องจะมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ BlackBerry OS 6.1 เวอร์ชันล่าสุดซึ่งมีฟีเจอร์ใหม่ให้ผู้ใช้งานต้องอาศัย BlackBerry ID แทนที่ระบบ PIN แบบเดิม โดย ID เหล่านี้จะช่วยให้เจ้าของ BB Touch ทั้งหลายสามารถแบ็กอัพข้อมูลหรือแชร์ข้อมูลผู้ติดต่อภายในเครื่องผ่านระบบการให้บริการแบบ Cloud ด้วย

สุดท้ายนี้มีการคาดการณ์กันว่า BlackBerry Touch จะได้รับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนพฤษภาคมนี้ภายในงานมหกรรม BlackBerry World ไปพร้อมๆกับสมาร์ตโฟนรุ่นอื่นๆจากค่าย RIM ไม่ว่าจะเป็น BlackBerry Bold Touch, BlackBerry Curve Touch และ BlackBerry Torch 2

ที่มา : TechXcite

iPad ไทยไม่รอช้ารับซัมเมอร์เซลส์ปีนี้ลดทุกรุ่นทุกความจุ 200-2,500 บาท!

สงสัยจะอยู่เฉยไม่ไหวเหมือนกันหลังจากที่พ่อค้าแม่ขายในมาบุญครองเริ่มตัดราคาขาย iPad 2 เครื่องหิ้วลงแบบหน้ามือเป็นหลังเท้า ล่าสุดถึงคราวตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์ของ Apple ในประเทศไทยไม่ว่าจะเป็นร้าน iStudio หรือ iBeat ที่ก็ไม่ต้องรอให้ใครมากระตุ้นด้วยการประกาศลดราคาขาย iPad รุ่นแรกลงทุกรุ่นทุกขนาดความจุตั้งแต่ 200-2,500 บาท

สำหรับเรตราคาของ iPad ที่เพิ่งออกมานี้แม้จะไม่ได้ลดราคากันชนิดช็อคกันไปทั้งบาง แต่อย่างน้อยก็ยังถือว่าถูกกว่าสังซื้อออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ Apple Store Thailand ก็แล้วกัน เผื่อใครไม่อยากได้เครื่องหิ้วแบบเถื่อนๆของ iPad 2 ก็จะได้ลองไปหาซื้อ iPad เครื่องศูนย์ไปเล่นแก้ขัดกันก่อนได้นะครับ (แนะนำว่าให้รีบหน่อยเพราะของคงจะมีจำกัดแน่ๆ!)

iPad Wi-Fi

16GB: 12,700 บาท

32GB: 15,400 บาท

64GB: 16,900 บาท

iPad 3G + Wi-Fi

16GB: 16,400 บาท

32GB: 18,400 บาท

64GB: 20,400 บาท

ที่มา : TechXcite

แคนนอน เปิดตัว Canon EOS 600D ใหม่! กล้องดิจิตอลซิงเกิ้ลเลนส์รุ่นล่าสุด เจาะกลุ่มผู้ใช้งานเริ่มต้น ด้วยฟังก์ชั่นเทียบเท่ากล้องระดับโปรฯ



แคน นอนย้ำความแรงประกาศความสำเร็จอีกขั้นในฐานะผู้นำตลาดกล้องดิจิตอลซิ งเกิ้ลเลนส์อันดับหนึ่งของเมืองไทย เปิดตัวกล้องดิจิตอลดีเอสแอลอาร์รุ่นใหม่ล่าสุด Canon EOS 600D เจาะกลุ่มผู้ใช้งานเริ่มต้น (Entry Level) อัดแน่นด้วยฟังก์ชั่นระดับกล้องมืออาชีพ อาทิ เซ็นเซอร์ CMOS ความละเอียดสูงถึง 18 ล้านพิกเซล พร้อมชิปประมวลผลภาพ DIGIC 4 เพื่อการภาพถ่ายคุณภาพสูง ตอบสนองการทำงานรวดเร็ว, ช่วงความไวแสง ISO100-6400, หน้าจอ LCD ขนาด 3 นิ้ว ความละเอียดจอสูงถึง 1.04 ล้านพิกเซล ปรับได้หลายทิศทาง สะดวกในการถ่ายภาพในมุมมองต่างๆ

พร้อมเทคโนโลยี Multi Coating และ High-Transparency ตัดแสงสะท้อนบนจอภาพ มองภาพชัดแม้แสงจ้า ,บันทึกภาพเคลื่อนไหวระดับ Full HD (1920 x 1080), ระบบออโต้โฟกัส 9 จุด ให้ภาพคมชัด แม่นยำ พร้อมหลากหลายเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจากแคนนอน อาทิ Scene Intelligent Auto ครั้งแรกในตระกูล EOS กับระบบออโต้อัจฉริยะเพื่อการถ่ายภาพคมชัดในทุกสภาพแสง, Movie Digital Zoom ซูมดิจิตอล 3X -10X ระหว่างถ่ายภาพเคลื่อนไหว, Video Snapshot



เพิ่ม ความสะดวกในการสร้างไฟล์ภาพเคลื่อนไหว ให้ผู้ใช้บันทึกไฟล์วีดิโอสั้นๆ (2,4,8 วินาที) และรวมเป็นไฟล์เดียวพร้อมเพลงมิวสิคแบ็คกราวนด์ สามารถนำไปใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องตัดต่อให้ยุ่งยาก, Creative Filter เพิ่มลูกเล่นการถ่ายภาพให้สนุกยิ่งขึ้นกับฟิลเตอร์สร้างสรรค์ภาพพิเศษ ได้แก่ ฟิลเตอร์ภาพหยาบขาว-ดำแบบฟิล์ม B&W Grainy Effect ฟิลเตอร์เลนส์ตาปลา Fish-eye-Effect, ใช้งานง่ายด้วย เมนูภาษาไทย

และฟังก์ชั่น Guide Feature ที่ช่วยอธิบายประโยชน์การใช้งานและทิปสั้นๆ ในแต่ละเมนู Canon EOS 600D วางจำหน่าย 2 ชุด คือ กล้อง EOS 600D พร้อมเลนส์ EF-S 18-55 f/3.5-5.6 IS II ราคา 29,900 บาท และ กล้อง EOS 600D พร้อมเลนส์ EF-S 18-135 f/3.5-5.6 IS ราคา 38,900 บาท ทดลองมิติใหม่แห่งกล้องดิจิตอลซิงเกิ้ลเลนส์ รุ่น EOS 600D ได้แล้ววันนี้ ที่ตัวแทนจำหน่ายแคนนอนทั่วประเทศ

คุณสมบัติืและรายละเอียด กล้อง EOS 600D

คุณสมบัติเด่น EOS 600D > เติมไอเดียสร้างสรรค์ให้กับภาพถ่ายของคุณ

 EOS Scene Detection System เสริมความสมบูรณ์แบบให้กับคุณสมบัติของโหมดถ่ายภาพอัตโนมัติ Scene Intelligent Auto
ด้วย EOS scene detection system จะทำการตรวจจับฉากที่ต้องการถ่าย และนำมาวิเคราะห์ประมวลผลถึงสภาพแสง วิวทิวทัศน์ และวัตถุที่ต้องการถ่ายภาพ เพื่อนำมาปรับตั้งค่าการถ่ายภาพต่างให้เหมาะสม ทั้งในส่วนของการปรับชดเชยแสง การปรับระยะโฟกัสภาพ การปรับสมดุลแสงขาว การปรับสมดุลแสงอัตโนมัติ ร่วมด้วยกับการปรับตั้งค่า Picture Style ให้อัตโนมัติ เพื่อความสมบูรณ์แบบของภาพถ่ายมากยิ่งขึ้นในทุกสถานการณ์

 ปรับสีและภาพอัตโนมัติสมจริงยิ่งขึ้น ด้วย Picture Style Auto
จาก การวิเคราะห์ฉากการถ่ายภาพของ EOS Scene Detection System ฟังก์ชั่น Picture Style Auto จะทำการปรับตั้งค่าสี ให้มีความอิ่มตัวสูง และมีความสดใสสมจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ที่มีสัดส่วนของท้องฟ้ามาก มีส่วนของต้นไม้ทุ่งหญ้าสีเขียว และการถ่ายภาพพระอาทิตย์ตก

 สร้างสรรค์จินตนาการแห่งภาพถ่ายได้แม้ใช้โหมดการถ่ายภาพอัตโนมัติ (Basic +)
- ถ่ายทอดอารมณ์ให้กับภาพถ่าย ด้วยการเลือกบรรยากาศของภาพที่ต้องการ
เป็น เมนูคำสั่งที่ใช้คำง่ายๆ ในการอธิบายถึงการถ่ายภาพตามการเลือกบรรยากาศโดยการเลือกใช้ Picture Style และค่าพารามิเตอร์ต่างๆ (ค่ามาตรฐาน / สดใส / นุ่มนวล / อบอุ่น/ หนักแน่น / เยือกเย็น / สว่างขึ้น / มืดลง / ภาพขาวดำ)
- การถ่ายภาพโดยตั้งค่าแสงหรือฉากของภาพ
เป็น เมนูคำสั่งที่ใช้คำง่ายๆ ในการอธิบายถึงการเลือกใช้การตั้งค่าแสงหรือบรรยากาศ (White Balance) แบบต่างๆ (ตั้งค่าเริ่มต้น / แสงแดด / แสงในร่ม / เมฆครึ้ม / หลอดไฟทังสเตน / หลอดฟลูออเรสเซนต์ / อาทิตย์ตก)


 สร้างสรรค์ภาพถ่ายแปลกตาด้วยฟิลเตอร์สร้างสรรค์ (Creative filters)
- เลือกใส่ฟิลเตอร์ให้กับภาพถ่ายได้ 5 รูปแบบ (ภาพหยาบ ขาว-ดำ Grainy B/W, ซอฟท์โฟกัส Soft Focus, ลูกเล่นกล้องของเล่น Toy Camera Effect, เอฟเฟคกล้องรูเข็ม Miniature Effect และใหม่! เอฟเฟคตาปลา Fish-eye)
ฟิลเตอร์นี้สามารถเลือกใช้ได้กับไฟล์ RAW และไฟล์ภาพ JPEG ได้ทั้งหมด
นอกจากนี้ยังสามารถปรับตั้งค่าฟิลเตอร์แต่ละแบบได้เพิ่มเติมอีกด้วย

นวัตกรรมล่าสุด

 ฟังก์ชั่น Video Snapshots
- บันทึกภาพเคลื่อนไหวในรูปแบบคลิปวิดีโอสั้นๆ (ความยาว 2,4 หรือ 8 วินาที), และทำการเชื่อมต่อไฟล์วิดีโอทั้งหมดไว้ในอัลบั้มเดียวกัน พร้อมกับใส่เสียงเพลงประกอบเพื่อสร้างบรรยากาศให้กับการชม โดยใช้เพลงที่มีให้ในกล้อง หรือนำเข้าเพลงเพิ่มเติมจากภายนอก

 ฟังก์ชั่น Movie Digital Zoom
- ในขณะบันทึกภาพเคลื่อนไหว สามารถใช้งานซูมดิจิตอล ได้ถึง 3 เท่า – 10 เท่า โดยยังคงคุณภาพระดับ Full HD (1920 x 1080)

 ปรับตั้งค่าชดเชยแสงแบบแมนนวลในขณะบันทึกภาพวิดีโอ
- ปรับตั้งค่าความเร็วชัตเตอร์ และรูรับแสงได้แบบแมนนวล รวมทั้งสามารถเลือกปรับตั้งค่าความไวแสงได้ทั้งแบบอัตโนมัติและแมนนวล

 โดดเด่นเหนือใครด้วยการบันทึกภาพเคลื่อนไหวตามแบบฉบับ EOS movie
- Full HD (1920 x 1080)
– เลือกค่าเฟรมเรทได้แบบ 30p, 25p และ 24p
- HD ready (1280 x 720)
– เลือกค่าเฟรมเรทได้แบบ 60p และ 50p
- SD formats (640 x 480)
– เลือกค่าเฟรมเรทได้แบบ 60p และ 50p
- เสริมความสมบูรณ์แบบให้กับการบันทึกเสียงด้วยช่องต่อไมโครโฟนภายนอก
– โดยสามารถบันทึกเสียงได้ด้วยคุณภาพระดับสเตอริโอในขณะบันทึกภาพเคลื่อนไหว
- มีหน้าเมนูสำหรับการถ่ายภาพเคลื่อนไหวโดยเฉพาะ เพื่อความคล่องตัวในการใช้งาน

 โหมดการถ่ายภาพแบบ Live View แสดงภาพจริงก่อนถ่าย
- สามารถเปิดใช้งานได้ในทุกโหมดการถ่ายภาพ

โดดเด่นด้วยประสิทธิภาพของตัวกล้อง

 เซ็นเซอร์ CMOS ขนาด APS-C ความละเอียด 18.0 ล้านพิกเซล ให้ภาพถ่ายสมบูรณ์แบบด้วยการพัฒนา Microlens array ให้มีช่องว่างน้อยที่สุด ให้ไดนามิคเรนจ์ของภาพถ่ายกว้าง และมีสัญญาณรบกวน (Noise) ต่ำ

 ชิปประมวลผลภาพอัจฉริยะ DIGIC 4 ลิขสิทธิ์เฉพาะของแคนนอน
ประมวลผลภาพได้อย่างรวดเร็วอย่างมีคุณภาพ
- ประมวลผลภาพได้อย่างรวดเร็ว ช่วยประหยัดพลังงาน ยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้ยาวนานขึ้น
- พัฒนาคุณภาพให้มีสัญญาณรบกวน (Noise) ต่ำ ในขณะเปิดใช้งานความไวแสงสูงๆ โดยไม่ทำให้ความเร็วในการทำงานของกล้องลดลง
- โหมดออโต้โฟกัสแบบตรวจจับใบหน้า Live Face detection (AF)
- พัฒนาประสิทธิภาพของฟังก์ชั่นของระบบปรับสมดุลแสงอัตโนมัติ (Auto lighting optimizer)
- การปรับตั้งค่าแก้ไขระดับแสงบริเวณขอบภาพอัตโนมัติ (Lens peripheral illumination auto correction)
- รองรับการเชื่อมต่อสัญญาณ HDMI ออก (ตามมาตรฐาน CEC)
- เลือกตั้งขนาดไฟล์ภาพ JPEG ได้ 5 ขนาด

 สมบูรณ์ทุกสภาพแสง แม้ใช้งานด้วยความไวแสงสูง
- ช่วงความไวแสงกว้าง สามารถเลือกได้ตั้งแต่ ISO 100 - 6400 (และสามารถขยายได้สูงถึง : ISO 12800)
- ปรับระดับการลดสัญญาณรบกวน (Noise) ได้ 4 ระดับ
- กำหนดช่วงความไวแสงที่ต้องการใช้งานได้ในโหมด Auto ISO

 ระบบวัดแสงแบบมืออาชีพ
- เซ็นเซอร์วัดแสงแบบ dual-layer แบ่ง 63 โซน
– ใช้ข้อมูลการโฟกัสอัตโนมัติ ช่วยในการปรับตั้งค่าแสงให้อัตโนมัติ
– ใช้ประกอบการวิเคราะห์ข้อมูลการปรับตั้งค่าสีของภาพ
– ปรับชดเชยแสงได้ ± 5 ระดับ

 ถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูง 3.7 ภาพต่อวินาที ต่อเนื่องกันสูงสุดที่ 34 ภาพ (ไฟล์ JPEG) / 6 ภาพ (ไฟล์ RAW)

คุณสมบัติอื่นๆ ที่น่าสนใจ

 เพิ่มประสิทธิภาพของระบบทำความสะอาดเซ็นเซอร์อัจฉริยะ EOS Integrated Cleaning System ด้วยการเคลือบฟลูออไรน์บน Low Pass Filter
- ฟลูออไรน์มีส่วนช่วยลดการเกาะติดของฝุ่นละอองบนเซ็นเซอร์

• ฟังก์ชั่นการจัดการโฟลเดอร์ภาพ
– ผู้ใช้สามารถสร้างโฟลเดอร์ และเลือกบันทึกภาพลงในโฟลเดอร์ที่ต้องการได้ จากเมนู [folder selection]
– นอกจากนี้ ยังสามารถสั่งลบภาพทั้งหมดที่อยู่ในโฟลเดอร์ที่เลือกได้

• บันทึกข้อมูลลิขสิทธิ์ภาพ (Copyright)
– สามารถตั้งชื่อช่างภาพ และชื่อเจ้าของลิขสิทธิ์ภาพได้จากในตัวกล้อง หรือซอฟท์แวร์ EOS utility ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะถูกบันทึกอยู่ในส่วน EXIF data

 การควบคุมแฟลชภายนอกจากตัวกล้อง (Speedlite transmitter)
- ฟังก์ชั่นการควบคุมแฟลชภายนอกจากตัวกล้อง – เป็นฟังก์ชั่นที่ใช้ในการควบคุมแฟลชภายนอกแบบไร้สาย โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ควบคุม (external master) เพิ่มเติม (สั่งงานได้ Group A & B)

 สะดวกใช้งานด้วย Feature guide
- แสดงประโยชน์การใช้งานของแต่ละฟังก์ชั่นอย่างย่อ เพื่อช่วยเสริมความเข้าใจในการเลือกใช้งานแต่ละฟังก์ชั่น โดยจะแสดงทั้งในโหมดการถ่ายภาพ การเลือกวงแหวนควบคุมโหมดการถ่ายภาพและฟังก์ชั่น Quick Control screen

 ปรับตั้งค่าอัตราส่วนภาพ (Aspect ratios) ได้หลากหลายขนาด
- ไม่เพียงแต่อัตราส่วนภาพแบบ 3:2 กล้อง EOS 600D ยังสามารถปรับตั้งค่าอัตราส่วนภาพถ่ายได้หลากหลายขนาด ได้แก่ 4:3 1:1 และ 16:9 เสมือนการเลือกใช้ฟิล์มขนาดต่างๆ โดยภาพเดียวกันยัสามารถเลือกปรับตั้งค่าอัตราส่วนภาพได้หลากหลายค่าอีกด้วย

 ปรับลดขนาดภาพ (Resizing)
- สามารถปรับลดขนาดของภาพถ่าย JPEG ได้ โดยสามารถเลือกบันทึกเป็นไฟล์ใหม่ได้อีกด้วย

 จัดลำดับภาพ ด้วยการให้คะแนน (Ratings)
- จัดลำดับภาพด้วยการให้คะแนน (1-5 ดาว) โดยผู้ใช้งานสามารถเลือกแสดงภาพได้ตามคะแนนที่ให้ไว้

 จอ LCD ปรับหมุนได้ขนาด 3 นิ้ว ความละเอียดสูง
- ความละเอียด 1.04 ล้านพิกเซล
- ปรับความสว่างของจอได้ 7 ระดับ
- เคลือบผิวป้องกันรอยนิ้วมือ

 เมนูการใช้งานภาษาไทยในตัวกล้อง


แฟลชภายนอก Speedlite 320EX


คุณสมบัติเด่น

 ไกด์นัมเบอร์สูงสุดที่ 32/105 m/ft (ISO100)
 รองรับการใช้งานร่วมกับระบบออโต้แฟลช E-TTL II / E-TTL
 สามารถปรับซูมหัวแฟลชแบบแมนนวลได้ (ครอบคลุมช่วงเลนส์ตั้งแต่ 24mm ถึง 50mm)
 รองรับการใช้งานฟังก์ชั่นการตั้งค่าแฟลชจากตัวกล้อง D-SLR
 การตั้งค่าชดเชยแสงแฟลช, การตั้งค่าแฟลชแบบแมนนวล, การตั้งค่าแฟลชสัมพันธ์กับม่านชัตเตอร์ชุดที่ 1 หรือ 2, high speed sync, FE lock และ Modeling flash
 ทำงานเงียบ ชาร์จไฟเร็ว รองรับการใช้งานการถ่ายภาพที่ต้องใช้แฟลชต่อเนื่อง
- ใช้เวลาเพียง 0.1 ถึง 2 วินาทีในการชาร์จไฟแฟลชแต่ละครั้ง
 สามารถยกแฟลชเบานซ์ขึ้น และซ้าย - ขวา
 ฟังก์ชั่น Wireless slave
 ฟังก์ชั่นควบคุมการทำงานของชัตเตอร์จากระยะไกล
 ไฟ LED สำหรับการบันทึกภาพเคลื่อนไหว
- ให้ความสว่างที่ 75 lux ใช้แบตเตอรี่ต่ำแม้เปิดใช้งานไฟ LED ในการบันทึกภาพเคลื่อนไหว

แฟลชภายนอก Speedlite 270EXII

คุณสมบัติเด่น

 ไกด์นัมเบอร์สูงสุดที่ 27/89 m/ft (ISO100)
 รองรับการใช้งานร่วมกับระบบออโต้แฟลช E-TTL II / E-TTL
 สามารถปรับซูมหัวแฟลชแบบแมนนวลได้ (ครอบคลุมช่วงเลนส์ตั้งแต่ 28mm ถึง 50mm)
 รองรับการใช้งานฟังก์ชั่นการตั้งค่าแฟลชจากตัวกล้อง D-SLR
 การตั้งค่าชดเชยแสงแฟลช, การตั้งค่าแฟลชแบบแมนนวล, การตั้งค่าแฟลชสัมพันธ์กับม่านชัตเตอร์ชุดที่ 1 หรือ 2, high speed sync, FE lock และ Modeling flash
 รองรับการใช้งานการถ่ายภาพที่ต้องใช้แฟลชต่อเนื่อง
- ใช้เวลาเพียง 0.1 ถึง 2 วินาทีในการชาร์จไฟแฟลชแต่ละครั้ง
 ทำงานเงียบ ชาร์จไฟเร็ว
 รองรับการใช้งานแบบเบานซ์แฟลช
 ฟังก์ชั่น Wireless slave
 ฟังก์ชั่นควบคุมการทำงานของชัตเตอร์จากระยะไกล (เทียบกับการใช้งานรีโมทคอนโทรลเลอร์ RC-1, RC-5 และ RC-6
 สามารถใช้งานได้ร่วมกับถ่านอัลคาไลน์ขนาด AA หรือ LR6 จำนวน 2 ก้อน

เลนส์ EF-S18-55mm f/3.5-5.6 IS II

คุณสมบัติเด่น

 ชิ้นส่วนเลนส์ Aspherical ช่วยปรับแก้ความคลาดสี (aberration) เพื่อให้ได้ภาพถ่ายยอดเยี่ยมเปี่ยมด้วยคุณภาพตลอดช่วงซูม
 จัดวางชิ้นเลนส์และเคลือบผิวเป็นอย่างดีเพื่อป้องกันการเกิดโกสท์ และแฟลร์ให้มีน้อยที่สุด
 ระยะโฟกัสใกล้สุดที่ 0.25 เมตรตลอดช่วงการตั้งค่าซูม
 รูรับแสงทรงกลม ช่วยเบลอฉากหลังได้อย่างสวยงาม
 โฟกัสอัตโนมัติความเร็วสูง
 เมื่อเปิดใช้งานระบบป้องกันภาพสั่นไหว จะทำการตรวจจับรูปแบบการถ่ายภาพว่าเป็นการถ่ายภาพปกติหรือการแพนกล้อง และปรับการทำงานให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ
 ช่วยชดเชยการสั่นไหวได้สูงสุด 4 stops
 มาพร้อมกับเทคโนโลยีกันภาพสั่นไหว ตัวเลนส์ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา สำหรับการใช้งานร่วมกับกล้อง D-SLR ที่รองรับการใช้งานร่วมกับเลนส์ EF-S

ราคาจำหน่าย

EOS 600D พร้อมเลนส์ EFS 18-55isII 29,900 บาท
EOS 600D พร้อมเลนส์ EFS 18-55isII 38,900 บาท


แฟลช Speedlite 320EX 7,500 บาท
แฟลช Speedlite 270EXII 5,500 บาท

ที่มา : TechXcite

Wallpaper ^^


Calendar ^^